ศีลข้อ 2 คือ ห้ามลักทรัพย์
ห้ามลักทรัพย์ คือ การแย่งของที่ไม่ใช่ของตนหรือการกระทำโดยทรุจริตเพื่อให้ได้ของนั้นมาเป็นของตน เมื่อเราทำผิดศีลข้อ 2 นี้จะเกิดโทษขึ้นต่อเราทันทีในชาตินี้ดังนี้
1) จิตเราจะหดหู่ไม่เป็นสุข
2) จิตใจอ่อนแอลง
3) อยู่ไม่เป็นสุข
1) จิตหดหู่
เมื่อไรก็ตามที่เราคิดเรื่องไม่ดีหรือกระทำเรื่องไม่ดี ลึกๆในใจเราจะรู้สึกผิดอยู่เสมอเป็นปกติของสามัญสำนึก เมื่อเราคิดที่จะขโมยจิตเราจะเริ่มกังวลถึง ผลที่จะตามมา วิธีการปกปิดความลับ วิธีการที่จะขโมย และหลังจากที่เราลงมืขโมยไปแล้ว จิตเราจะกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกจับได้ ถึงแม้ว่าเราจะมีข้ออ้างว่าทำเพราะความจำเป็น แต่ลึกๆในใจก็คงกังวลอยู่ตลอดเวลา
2) จิตใจอ่อนแอลง
เมื่อเริ่มคิดหรือลงมือขโมยครั้งแรกก็จะมีครั้งต่อๆไป เกิดขึ้นเนื่องจากจิตใจที่อ่อนแอลงของเราจะพยายามหาเหตุผลมาสนับสนุนตนเองว่าทำถูกต้องแล้วต้องทำเพราะความจำเป็น และเมื่อเราลงมือทำผิดบ่อยครั้งขึ้น จิตใจเราก็จะค่อยๆ อ่อนแอลงเรื่อยๆ จนไม่เหลือสามัญสำนึกของความเป็นคนแบบปกติ ตอนแรกอาจทำเพราะจำเป็นแต่เมื่อทำบ่อยๆครั้งเข้าความโลภจะบังตาจะคิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรให้ได้ของนั้นมาถึงแม้ของนั้นจะไม่ใช่ของเรา เมื่อมาถึงจุดนี้เราจะไม่สามารถหักห้ามใจไม่ให้ขโมยได้อีกต่อไป
3) อยู่ไม่เป็นสุข
เห็นได้ชัดว่าเมื่อเราขโมย หรือคิดที่จะขโมย เราจะต้องดิ้นรนเพื่อ หาวิธีขโขมยหรือหาวิธีปกปิดความผิด นั่นทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตแบบเป็นสุขปกติได้ ต้องคิดวางแผน ระวัง ระแวงอยู่ตลอดเวลา
สำหรับโทษของการผิดศีลข้อ 2 หลังจากตายไปแล้วนั้น โดยส่วนตัวผมไม่รู้แน่ชัด แต่โดยหลักความเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม แน่นอนเราจะตก นรก เพื่อไปชดใช้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวร เพราะการขโมยและแย่งของที่ไม่ใช่ของเรามานั้นเป็นการสร้างความผูกพยาบาทจากเจ้าของของสิ่งนั้นมาสู่เรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น